
สธ.-มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ การเปิดบริการ 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์ หวังช่วยผู้รับบริการเข้าใจ เข้าถึงความรู้ ข้อมูลการรักษาและบริการ
นายนิมิตร์ เทียนอุดม
ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า
สถานการณ์เอดส์ในปัจจุบันเปลี่ยนไป
คนเริ่มประเมินความเสี่ยงที่แท้จริงต่อการรับเชื้อเอชไอวีได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม คนจำนวนหนึ่ง ยังมีความกังวลที่จะรู้ผลเลือดของตนเอง
ซึ่งมาจากหลายสาเหตุ สาเหตุแรก คือ กังวลเรื่องความลับ
โดยเกรงว่าเมื่อไปตรวจแล้วคนอื่นจะรู้หรือสงสัยว่าไปทำพฤติกรรมที่มีความ
เสี่ยงมา
ข้อนี้เป็นปัญหาซับซ้อนเพราะคนมักจะผูกโยงเรื่องเอดส์กับทัศนคติเดิมของตัว
เองที่มีต่อเรื่องเพศ โดยมองว่าผู้ติดเชื้อเป็นคนไม่ดี มีพฤติกรรมที่ไม่ดี
ซึ่งจริงๆแล้วการมองแบบนี้ไม่ช่วยแก้ปัญหา
แต่กลับทำให้ปัญหาซับซ้อนและแก้ยากขึ้น
ส่วนสาเหตุที่สองที่ทำให้คนไม่ไปตรวจเลือดคือ
คิดว่ารู้ผลไปแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้ คิดว่าเอดส์เป็นแล้วตาย
ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่เก่ามาก ปัจจุบันเอดส์รักษาได้แล้ว
ส่วนอีกสาเหตุหนึ่ง คือ ไม่รู้ว่าจะไปตรวจที่ไหน
ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือไม่อย่างไร"จากการเปิดบริการ 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์ พบว่า ผู้รับบริการหลายรายกังวลเรื่องที่จะไปตรวจเลือด เช่น ผู้รับบริการรายหนึ่งทราบข้อมูลการรักษาเอชไอวี/เอดส์ผ่านรายการทีวี. และประเมินได้ว่าตัวเองมีความเสี่ยง เพราะเคยมีเพศสัมพันธ์แบบ ไม่ป้องกันเมื่อ 5-6 ปีก่อน มีความกังวลว่าจะได้รับเชื้อ จึงอยาก ตรวจเลือด แต่ไม่ทราบว่าจะไปตรวจที่ไหน กรณีแบบนี้ หากผู้รับบริการ คนนี้ได้รับเชื้อจริง ระดับภูมิคุ้มกันก็น่าจะเหลือน้อยจนเกือบป่วยและต้องได้รับยาต้านไวรัสแล้ว เนื่องจากเกณฑ์เฉลี่ยคนไทยจะป่วยเมื่อรับเชื้อไปแล้ว 7-10 ปี ซึ่งถ้ารู้ผลเลือดเร็วกว่านี้จะเป็นผลดีต่อการดูแลสุขภาพ เพราะหากตรวจแล้วไม่ติดเชื้อก็จะได้หาวิธีทำให้ผลเลือดเป็นลบตลอดไปหรือหาก ตรวจแล้วติดเชื้อก็จะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาโดยเร็ว ไม่ต้องรอให้เจ็บป่วย" นายนิมิตร์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น