วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

โรคตับอักเสบจากไวรัสเอ

 

 ตับอักเสบจากไวรัสเป็นโรคที่พบได้ทั่วโลก ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ไวรัสที่ทำให้เกิดตับอักเสบมีตั้งแต่ไวรัสตับอักเสบชนิด A, B, C, D, E, F, G นอกจากนี้ยังมีการค้นพบไวรัสชนิดใหม่ ๆ ที่อาจทำให้เกิดตับอักเสบได้เช่นเดียวกัน เช่น ไวรัสไข้เลือดออก ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเริมและงูสวัด เป็นต้น
      ไวรัสตับอักเสบเอ เป็นไวรัสที่พบได้บ่อยทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศด้อยพัฒนาและกำลังพัฒนา เนื่องจากการติดต่อของโรคเกิดขึ้น โดยการรับประทานอาหาร หรือน้ำดื่มที่มีเชื้อไวรัสปนเปื้อนเข้าไป นอกจากนี้ยังอาจติดต่อได้โดยการสัมผัสกับเลือดของผู้ป่วย ในขณะที่มีเชื้อไวรัสอยู่ในกระแสเลือด
      ไวรัสตับอักเสบเอ นอกจากพบในคนแล้ว ยังพบในลิงซิมแปนซี นกฮูก ลิงชนิดต่าง ๆ อีกด้วย
ลักษณะอาการของโรค
      การ ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ เป็นได้ทั้งชนิดมีอาการและชนิดไม่มีอาการ ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ แต่อาการจะมากและรุนแรงขึ้นในกลุ่มอายุที่มากขึ้น ในผู้ใหญ่อาการมักเป็นรุนแรงกว่าในเด็ก
      อาการเริ่มต้นด้วยเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน อาจมีไข้ต่ำ ๆ ในวันแรก ๆ ปัสสาวะสีเข้ม ปวดบริเวณชายโครงขวา ตัวและตาเหลือง ตรวจเลือดจะพบการทำงานของตับผิดปกติ
      ระยะเวลาดำเนินของโรค 4-8 สัปดาห์ ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยจะมีระดับการทำงานของตับเป็นปกติภายใน 1 เดือน บางรายอาจเหลืองเกิน 3 เดือน ส่วนใหญ่มักเป็นปกติภายในไม่เกิน 6 เดือน 

การป้องกัน
      1. ทางด้านสุขอนามัย เนื่องจากโรคตับอักเสบจากไวรัสเอ ส่วนใหญ่ติดต่อทางอาหารและน้ำดื่ม ดังนั้นควรรับประทานอาหารที่ทำสุกสะอาด และดื่มน้ำที่สะอาด ถ้าไม่แน่ใจให้อุ่นหรือต้มในน้ำเดือดนานเกิน 1 นาที หรือผ่านความร้อนด้วย Microwave สำหรับผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยต้องแยกสิ่งของเครื่องใช้ เนื่องจากเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ จะขับออกมาทางอุจจาระ มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อได้
      2. การให้ภูมิคุ้มกัน ในผู้ที่สัมผัสโรคสามารถให้ภูมิคุ้มกันชนิดป้องกันได้ทันที (Hepatitis A lmmune Globulin) แต่ภูมิคุ้มกันนี้จะอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน ฉะนั้นจึงแนะนำให้มีการฉีดวัคซีนร่วมด้วย
      การให้วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบจากไวรัสเอ (Hepatitis A Vaccine) แนะนำให้เริ่มให้ในเด็กอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป โดยให้ 2 ครั้ง ห่ากงัน 6-12 เดือน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น